วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559

บุญ..คือมิตรแท้

...บุญคืออะไรอยู่ที่ไหน...
บุญ คือ พลังงานอย่างหนึ่ง ซึ่งละเอียด ประณีต และทรงพลังอย่างยิ่ง เป็นเครื่องชำระล้างใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ห่างไกลจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย น่าเสียดายที่คนทั่วไปมองไม่เห็นบุญ จนบางคนไม่เชื่อว่าบุญมีจริง แต่ผู้ปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมขั้นสูงแล้วสามารถเห็นบุญและบาปได้ ดังที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้กล่าวยืนยันไว้ว่า บุญ บาป มีจริงๆ อยู่ในตัวของเรานี่เอง ดังนี้
“..บุญ เป็นดวงใสๆ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ..บาป เป็นดวงดำ ติดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์เช่นกัน..”


        แม้เรายังไม่เห็นบุญ แต่เราก็สัมผัสกระแสบุญได้ เช่น เวลาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา บุญจะหลั่งไหลมาสู่ใจเรา ทำให้เราสบายใจ จิตใจผ่องใส ความรู้สึกเหล่านี้คืออาการของบุญ ซึ่งเปรียบได้กับกระแสไฟฟ้าที่มองไม่เห็น แต่เวลาเปิดสวิตช์ ก็จะมีกระแสไฟเข้าไปทำให้เครื่องไฟฟ้าทำงานเกิดเป็นแสงสว่างในหลอดไฟ ความเย็นในตู้เย็น หรือความร้อนในเตารีดไฟฟ้า เป็นต้น


        เรื่องกระแสบุญนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เคยตรัสไว้ในปฐมปุญญาภิสันทสูตรว่า เวลาบุญเกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นสายธาร เหมือนท่อธารแห่งบุญไหลไปยังผู้ทำบุญ ดังนี้ “เมื่อภิกษุบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย ของทายกใด แล้วเข้าเจโตสมาธิ(Meditation) ท่อธารบุญกุศล ย่อมไหลไปสู่ทายก (ผู้บริจาคทาน) นับประมาณมิได้ นำสุขมาให้ ให้ผลอันเลิศ มีสุข เป็นวิบาก ดุจแม่น้ำทั้งหลายไหลลงสู่ทะเลฉะนั้น” (มก. ๓๕/๑๗๘)

-------------------------
บุญกิริยาวัตถุ 10
-------------------------
ทางมาแห่งบุญมีถึง 10_ประการ เมื่อเราทำบุญอย่างหนึ่งอย่างใด 10_ประการต่อไปนี้
บุญก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา

1.    ทานมัย บุญจากการทำทาน
2.    สีลมัย บุญจากการรักษาศีล
3.    ภาวนามัย บุญจากการเจริญสมาธิภาวนา
4.    อปจายนมัย บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมต้น
5.    เวยยาวัจจมัย บุญจากการช่วยเหลือการงานที่ถูกที่ควร
6.    ปัตติทานมัยบุญจากการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้อื่น
7.    ปัตตานุโมทนามัยบุญจากการอนุโมทนา
8.    ธัมมัสสวนมัยบุญจากการฟังธรรม
9.    ธัมมเทสนามัยบุญจากการแสดงธรรม
10.  ทิฏฐุชุกัมม์ บุญจากการทำความเห็นให้ตรงความเป็นจริง

-------------------------------
มีบุญสำเร็จทุกอย่าง
-------------------------------

        ทุกครั้งที่ทำความดี เช่น ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา จะเกิดกระแสบุญมารวมกันเข้าเป็นดวงบุญ ซึ่งมีอานุภาพดึงดูดสมบัติทั้ง 3_คือ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ให้เกิดขึ้นกับเราได้


        อานุภาพพบุญนั้นยิ่งใหญ่สุดประมาณ ช่วงไหนเรามีบุญมาก และบุญกำลังส่งผล สมบัติต่างๆ ก็จะหลั่งไหลมาหาเราแต่เมื่อไรเรามีบุญน้อย หรือหมดบุญ สมบัติที่มีอยู่ก็จะค่อยๆลดน้อยลงไป เพราะไม่มีบุญที่จะดึงดูดสมบัติมาได้ดังเดิม และเมื่อเราทำความชั่ว มีความโลภ หรือความตระหนี่เกิดขึ้น ก็จะเกิดกระแสกิเลสขึ้นมาผลักสมบัติทั้ง 3_ให้พลัดพรากจากเราไป



        คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย เคยกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า บุญเปรียบเสมือนน้ำในคลอง บาปเสมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ ชีวิตเปรียบเสมือนเรือที่แล่นไปบนน้ำ ถ้ามีบุญมากก็เสมือนน้ำในคลองมาก บาปกุศลที่เปรียบดังตอที่อยู่ใต้น้ำก็ทำอะไรไม่ได้ เรือก็แล่นไปได้อย่างสะดวก เหมือนชีวิตที่ราบรื่นก้าวหน้า ถ้าบุญน้อยก็เสมือนน้ำน้อย ต่อก็ผุดเรือก็ติด จะประกอบธุรกิจการงานใดๆ ก็ติดขัดไปหมด คุณยายท่านยังได้กล่าวไว้อีกด้วยว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กำลังบุญ มีบุญอย่างเดียว อะไรๆก็สำเร็จหมด”



บุญจึงเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งปวงของมนุษย์ 

----------------------------------------------
ประวัติคุณยายอาจารย์  http://mygrandma01.blogspot.com/2016/03/blog-post.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2015 @วัดเอย>>>วัดพระธรรมกาย
| Distributed By Gooyaabi Templates