Featured

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

กรณี ธรรมกาย เมื่อไม่ผิด แล้วทำไมต้องกลัว!!

ไม่ผิดซะอย่าง ทำไมต้องกลัว!!

 ไปมอบตัวสู้คดีในชั้นศาลก็สิ้นเรื่อง ทำไมต้องท้าทายอำนาจ กฏหมาย??


ขอขอบคุณ และอนุโมทนาในคำแนะนำที่ดี.. 

 เพราะ คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อธัมมชโย เห็นความผิดปกติหลายๆอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ถูกใส่ความ ก็ขึ้นศาลมาแล้ว 5 ปี เป็นอย่างน้อย 

 ท่านก็ชนะคดี  แต่ไม่มีใครมารับผิดชอบสิ่งที่เสียหายเลย  การกล่าว หาเลื่อนลอยแฝงเจตนาร้ายครั้งนี้ 



 จึงทำให้คณะลูกศิษย์ไม่อยากให้ท่านเข้าสู่กระบวนการแบบนั้นอีกแล้ว

 เพราะเห็นความบิดเบี้ยวของผู้ใช้กฏหมาย ไม่อยากให้ถูกจับสึกฟรีเหมือนพระพิมลธรรม หรือพระรูปอื่นๆในอดีต

 พวกที่ชอบพูดว่า ไม่ผิดกลัวอะไร ให้ไปมอบตัวสู้คดี นี่ไงตัวอย่างหนึ่งที่เห็น  และมีอีกมากมายในคุก ที่ไม่ผิด แต่ต้องติดคุกฟรีๆ   บอกได้เลย  คำถามของพวกที่เคารพกฏหมายทั้งหลาย หรือไม่รู้เจตนาร้ายของผู้ที่กำลังมาเล่นงานหลวงพ่อธัมมชโยก็ดี  ชอบถามว่า  " ไม่ผิดกลัวอะไร " คำตอบก็คือ  "กลัวติดคุกฟรีๆไงล่ะ

  ดูข่าวดังติดคุกฟรี..เป็นไงล่ะ                                   http://news.sanook.com/2018734/


 

ที่สำคัญ : หลวงพ่อธัมมชโยไม่ผิด เพราะได้พิสูจน์ด้วยหลักฐานมากมาย..

 ท่านปฏิบัติตามทั้งกฏหมายและพระธรรมวินัยทุกอย่าง ไม่ผิดก็คือไม่ผิด  ใยจะมายัดข้อหาใส่ท่าน  ได้รับใบสั่งจากใครหรือ..???

ธรรมรักษ์ ปธ.๙

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คุณรู้จักวัดพระธรรมกายดีแค่ไหน???

ถ้าปี 2513 "คุณยายแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง" สร้างวัดเล็กๆอยู่ตามลำพัง กับลูกศิษย์ที่สนใจในการปฏิบัติธรรม วันนี้ 


"วัดพระธรรมกาย จะมีคนรู้จัก" ซักเท่าไร

ถ้า "พระไชยบูลย์ ธัมมชโย" แค่สอนสมาธิให้แก่ลูกศิษย์แบบวัดทั่วๆไป "ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา" จะมีหน้านี้หรือไม่

ถ้า "พระเผด็จ ทัตตชีโว" อบรมแค่เด็กวัดไม่กี่คน ไว้คอยช่วยงานปัดกวาดเช็ดถู จะมี "กองทัพนักข่าวบุกวัด" ดังเช่นวันนี้หรือเปล่า

เพียงแค่ 40 กว่าปี แห่งการก่อตั้ง วันนี้ ดังระดับโลก!!! 


มีพระเณร มากกว่า 4000รูป!!!

มีเจ้าหน้าที่อุทิศตนช่วยงานมากกว่า 3000คน!!!

มีสาขาทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 200แห่ง!!!

มีถาวรวัตถุประเมินราคาแล้ว มากกว่า 40000 ล้านบาท!!!

"ประวัติศาสตร์ชาติ" ตั้งแต่สมัย "พ่อขุน" 1800 ปี 
หลังพุทธปรินิพพาน " เ จ็ ด ร้ อ ย ก ว่ า ปี ไ ม่ เ ค ย มี "

ทำไมถึง "สร้าง"ใหญ่โต? เอาเงินมาจากไหน?

สอนอะไร? สอนยังไง? ทำไมถึงมีแต่คน "หนุ่มสาว" เข้าวัด? 

เอา "คน" ที่ไหนมาบวชเป็นหมื่นเป็นแสน จ้างมาเท่าไร?


ตักบาตรทีเป็นแสนเป็นล้าน เกณฑ์คนมา "หัว" เท่าไร?

หากผู้ที่ดูแล "บริหารบ้านเมือง" ดูแล "ความสงบเรียบร้อยของชาติ" ไม่ตั้งคำถามเหล่านี้ในใจ ก็สมควรลาออกไป ทำไร่ไถนา

แต่ถ้ามีคำถามในใจ แล้วไม่มาหาคำตอบด้วยตัวเอง รับฟังแต่ข้อมูลแล้วตัดสินใจ "เชื่อ"...นอกจากจะทำไร่ไถนาแล้ว ควรจะปลูกถั่วปลูกงา ไปด้วย

ยอมรับว่า โดยภาพลักษณ์แล้ว "วัดพระธรรมกาย น่ากลัวเกินไป" รวยเกิน ใหญ่เกิน  คนเยอะเกิน จัดตั้งเกิน  และ "สอนเก่งเกิน" สอนยังไง คนถึงเชื่อ หัวปรักหัวปรำ

ด้วยเหตุที่ไม่เคยมี และด้วยความที่ไม่เคยเกิดขึ้น "บนผืนแผ่นดิน"  จึงไม่แปลกใจที่จะเป็น "ตำบลกระสุนตก" ในเวลานี้ หรือในคราวที่ต้องการให้กระแสสื่อ "กลบข่าว" อะไรบางอย่าง!!!

ศิษยานุศิษย์ก็คงต้อง "เหนื่อยหนัก"ในการชี้แจงข้อมูลข่าวสาร แต่ถ้าผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส "เคลียร์คัดชัดเจน" ข้อสงสัยที่ค้างคาใจสังคมมานานวัน เชื่อว่าเมื่อ "ฟ้าหลังฝน" หลังจากผ่านพ้น "มรสุม" ครานี้ไปได้ วัดพระธรรมกาย จะก้าวไปสู่ "ระดับโลก" อย่างเต็มภาคภูมิ

#ทองแท้ไม่กลัวไฟก็จริง..
แต่ก็กลัวขโมย รบกันบนข้อ "แท้จริง" เชื่อว่าศิษย์วัด "เอาอยู่" แต่เห็น "รูปคดี" ที่พี่คน D พยายาม "จัดให้" แล้ว ก็ต้องบอกว่า "ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องขอใช้คาถา"

กึ่งศตวรรษ

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คณะศิษย์เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ของ “หลวงพ่อธัมมชโย”

คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เชื่อมั่นว่า "หลวงพ่อธัมมชโย” เป็นผู้บริสุทธิ์ ด้วยเหตุผล ดังนี้



  1. หากเป็นผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดฟอกเงินและรับของโจรตามข้อกล่าวหา ผู้กระทำจะต้องรู้อยู่แล้วว่า เมื่อมีการนำเงินออกจาก สหกรณ์โดยมิชอบกว่าหมื่นล้านบาท สหกรณ์ฯ จะต้องล้ม เกิดเป็นคดีความแน่นอน 

   ดังนั้นผู้ร่วมกระทำความผิดจะต้องพยายามปกปิด ซ่อนเร้นเส้นทางการเงิน เพื่อไม่ให้ความผิดมาถึงตัว เช่น แอบรับมาเป็นเงินสด ซุกซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้ และหาทางผ่องถ่ายเงิน กลับไปสู่ผู้ร่วมกระทำความผิด

  แต่ “พระเทพญาณมหามุนี” รับบริจาคโดยเปิดเผย ท่ามกลางประชาชนเรือนหมื่นเรือนแสน และรับบริจาคมาเป็นเช็คสหกรณ์ฯ ซึ่งสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้หมด ผู้ที่สมคบกันทำความผิด จะไม่มีใครรับเงินมาด้วยวิธีการโง่ๆ อย่างนี้แน่นอน

   พระพุทธเจ้าตรัสว่า  “กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา” พฤติกรรมจริงที่เกิดขึ้นนี้ จึงเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า “พระเทพญาณมหามุนี” รับบริจาคมาโดยเปิดเผย และสุจริต

  2. เงินบริจาคที่ได้รับมาทั้งหมด “พระเทพญาณมหามุนี” ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว และไม่มีการผ่องถ่ายคืนไปให้ นายศุภชัย เลย จึงไม่ใช่การฟอกเงิน 

   ซึ่งสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด เนื่องจากไม่เคยเบิกถอนเป็นเงินสดเลย แต่เป็นการโอนผ่านบัญชีไปให้วัด และมูลนิธิฯ เพื่อก่อสร้างศาสนสถานอันเป็นประโยชน์สาธารณะตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค


 ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว !
  สิ่งนี้แสดงถึงเจตนาสุจริตของ “พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)”

  3. “พระเทพญาณมหามุนี” บวชมาแล้ว 47 พรรษา ปฏิบัติธรรมทำความดีมาตลอดชีวิต สร้างพระ สร้างวัด มีผลงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนามากมาย

  จึงมีศิษยานุศิษย์ที่มีจิตศรัทธาในตัวท่านจำนวนมาก บริจาคปัจจัยเป็นการส่วนตัวแก่ “พระเทพญาณมหามุนี” รวมจำนวนกว่าหมื่นล้านบาท

  ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสามารถเบิกไปใช้ได้ตามประสงค์ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ไม่เคยถอนเป็นเงินสดออกมา เพื่อใช้จ่ายส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว 

  ปัจจัยทั้งหมดได้โอนผ่านบัญชีบริจาค แก่วัดและมูลนิธิฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะทั้งสิ้น

  พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจะมาทำความผิดฐานฟอกเงิน และรับของโจรทำไม?  กับเงิน 300 กว่าล้านบาท

  ในเมื่อปัจจัยที่ญาติโยมถวายเป็นการส่วนตัวเป็นหมื่นล้านบาท !

  ซึ่งท่านสามารถเบิกไปใช้ได้ตามต้องการ ท่านยังไม่เคยเบิกไปใช้ส่วนตัวเลย แต่ได้นำมาทำบุญบริจาคสร้างวัด เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั้งหมด

  4. “พระเทพญาณมหามุนี” บวชมาแล้ว 47 พรรษา ปฏิบัติธรรมมาตลอดชีวิต สร้างศาสนสถาน เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา และประเทศชาติ รวมมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท 

  สร้างพระภิกษุ ผู้ตั้งใจบวชอุทิศชีวิตจำนวน 4,000 รูป 

  สร้างอุบาสก อุบาสิกา ญาติโยมผู้มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาหลายล้านคน

   ผู้ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์ มาบวชเพราะหวังลาภสักการะ มีเจตนาทุจริต จะไม่ทำอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านทำ และก็ทำไม่ได้  เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยชีวิต ทุ่มเทจิตใจทั้งหมดลงไป

   พระพุทธเจ้าตรัสว่า  “ศีลรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วม”  คนอยู่ด้วยกันจะรู้นิสัยกัน ปิดไม่มิด  

   พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเป็นคนอย่างไร? พระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาในวัดที่อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปีต้องรู้ ไม่มีทางปิดกันได้ ! 

  ถ้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไม่ดีจริง พระภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาในวัดไม่มีทางอุทิศชีวิตตนเพื่อพระพุทธศาสนาตามคำสอนของท่านอย่างนี้ 

  ชีวิตของใครๆ ก็รัก จะยอมอุทิศชีวิตตนก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าสิ่งนั้นดีจริงเท่านั้น

  ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั้งมวล จึงมั่นใจในความบริสุทธิ์  ของ “พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)” 

  และขอวิงวอนต่อสื่อมวลชน สังคม และกระบวนการยุติธรรม ได้โปรดให้ความเป็นธรรมกับพระภิกษุชรา อายุกว่า 72 ปี 

  ที่ทำความดีมาทั้งชีวิต และกำลังอาพาธหนัก อย่ารังแกท่านหรืออย่าเร่งรัดกระบวนการจนเกิดเป็นความรู้สึกว่าอาจกำลังหาทาง  กลั่นแกล้ง?  

  อาจเป็นการดำเนินคดีแบบมีใบสั่ง? ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ต้องหาคดีกบฏ ซึ่งร้ายแรงยิ่งกว่า  แต่ไม่เห็นทาง DSI เร่งรัดดำเนินคดีแต่ประการใด?



             นายองอาจ  ธรรมนิทา
โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย
    23 มิถุนายน พ.ศ. 2559



 

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข้ออ้าง!!! ดีเอสไอทำคดี “พระธัมมชโย” โดยไม่ชอบธรรม !

ความไม่ชอบธรรมของ DSI

ในคดี “พระธัมมชโย” ที่ดีเอสไอได้ปฏิบัติต่อพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ต่อสายตาชาวโลก !!!



1. เนื้อหาในคดี 146/2556 ไม่อาจที่จะแยกมาเป็นคดีใหม่ที่ 27/2559 ได้





2. พนักงานสอบสวนได้นำหมายเรียกหลวงพ่อเปิดเผยต่อสื่อมวลชน แล้วเผยแพร่ไปยังประชาชนทั่วไป ก่อนนำหมายเรียกนั้นนำส่งหลวงพ่อ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน



3. พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้นายมโน เลาหวณิช ซึ่งมีความขัดแย้งกับหลวงพ่อมาเข้าร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวน ชี้นำวิธีการจัดการกับหลวงพ่อ ทำให้เห็นความไม่น่าไว้วางใจของพนักงานสืบสวนชุดนี้



4. DSI มีคำสั่งขอความร่วมมือเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ร่วมเป็นคณะกรรมการประสานงานคดีดังกล่าว และมีมติประชุมครั้งที่ 3 อีกในวันที่ 14 มิ.ย. แต่ DSI กลับไม่รอผลการประชุม กลับรีบร้อนรวบรัดอย่างผิดปกติส่งสำนวนไปยังอัยการก่อนในวันที่ 13 มิ.ย.  เหตุใด DSI ไม่รอให้ผลการประชุมเสร็จสิ้นก่อน 



5. ทำให้ชาวพุทธทั้งหลายขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของ DSI มีพฤติกรรมน่าสงสัยที่ไม่รักษาข้อตกลง และไม่ให้เกียรติการคณะสงฆ์ สนง.พระพุทธศาสนา


6. หลวงพ่อรับบริจาคอย่างสุจริตและเปิดเผย เงินทุกบาทใช้ในการก่อสร้างศาสนาสถาน ไม่ได้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว มีหลักฐานเส้นทางชัดเจน และไม่เคยถอนออกเป็นเงินสดเลย สำนักงาน ปปง. ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดโดยชัดเจนแล้ว




7. ศิษย์วัดพระธรรมกาย ตั้งกองทุนเยียวยาสหกรณ์จนครบจำนวน ทางสหกรณ์ได้ทำหนังสือขอบคุณ ไม่ติดใจเอาความทั้งคดีทางแพ่งและอาญา เหตุใด DSI จึงติดใจแทนสหกรณ์



8. การดำเนินคดีกับหลวงพ่อนี้ สร้างผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างใหญ่หลวงในการรับบริจาคของวัดและองค์กรต่างๆ อาจถูกดำเนินคดีรับของโจรและฟอกเงินได้เช่นเดียวกัน






เปิดเผยเส้นทางการเงิน ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น 
สู่ 6 กลุ่ม รวม 878 ฉบับ วงเงิน 11,367 ล้านบาท 
.
พบ วัดพระธรรมกายมีส่วนได้รับบริจาค จำนวน 43 ฉบับ คิดเป็นยอดเงิน 932 ล้านบาท หรือ 8.19% ย้ำ!! ว่าได้รับบริจาคมา มิใช่ยักยอก!!
.
ส่วนอีกกว่า 90% ยังไม่พบว่ามีการสั่งฟ้องหรือเร่งรัดคดีแต่อย่างใด
.
ปล.ตัวเลขเฉพาะที่อยู่ในสำนวนคดีเท่านั้น


อยากให้ DSI ไปเร่งรัดอีก กว่า 90% นะ อันนั้นน่าจะเกิดประโยชน์กับสมาชิกมากกว่า



   วัดพระธรรมกายเคารพในกระบวนการยุติธรรม และจะขอความเป็นธรรมจากพนักงานอัยการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป 

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

กราบ "หลวงพ่อพยอม" วัดสวนแก้ว

 คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย นำโดย "นายองอาจ ธรรมนิทา" โฆษกคณะศิษย์วัดพระธรรมกาย

  และ "นางสาวกรรณิการ์ อยู่ศรี" รองโฆษกคณะศิษย์ฯ เข้ากราบนมัสการ "พระเดชพระคุณพระราชธรรมนิเทศ (หลวงพ่อพยอม)" ณ วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี 



  ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีสื่อมวลชนบางสื่อ ได้นำบทสัมภาษณ์ของ "พระเดชพระคุณหลวงพ่อพยอม" ไปเผยแพร่และใช้ถ้อยคำพาดหัวรุนแรง จนอาจส่งผลให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงไปตามความเป็นจริง นำสู่ความเข้าใจผิดและสร้างความเสื่อมเสียต่อ "พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย คณะศิษยานุศิษย์ และวัดพระธรรมกาย" คณะศิษย์ฯ จึงได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวพุทธด้วยกัน 



  โดย "พระเดชพระคุณหลวงพ่อพยอม" ได้กล่าวถึงกรณีข้างต้นว่าข้อมูลที่ท่านได้รับอาจไม่ครบถ้วน และการนำเสนอของสื่อตัวกลางอาจชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ท่านจึงได้ออกมากล่าวขอโทษผู้เกี่ยวข้องแล้วนั้น



  ในฐานะชาวพุทธ "คณะศิษยานุศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย" จึงได้เข้ากราบนมัสการขอบพระคุณและขอขมาลาโทษ



  ต่อพระเดชพระคุณท่าน หากได้กระทำผิดพลาดล่วงเกิน กาย วาจา ใจ แม้โดยไม่ตั้งใจหรือมีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นท่านก็ตาม แต่เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ในฐานะพุทธมามกะและเชื่อมสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นในฐานะพุทธบริษัท 4 ที่ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียวสืบไป



  นับว่าเป็นการสร้างความเข้าใจอันดี ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร และโดยสำคัญพระศาสนาต้องการความปรองดอง เราหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกันมากขึ้น  นิ่งกันมากขึ้น และให้อภัยกันมากข่ึ้นสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขอย่างแน่นอน http://winne.ws/n4184

นี่หรือสื่อ !!! พระพยอม "ขอโทษ" กรณีข่าว "พระธัมมชโย" http://lovesourchools.blogspot.ca/2016/06/blog-post.html

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พระพยอม "ขอโทษ" กรณีข่าว "พระธัมมชโย"

พระพยอม "ขอโทษ"
กรณีข่าว "พระธัมมชโย" 
.........



จากกรณีที่มีหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งลงข่าวพาดหัวว่า "พระพยอม อ่านเกมธัมมชโย แนะตัดเสบียง ส่งทหารปิดล้อม" ชนิดที่ว่าพอเห็นพาดหัวข่าวแล้วไม่ว่าใครก็ต้องตื่นเต้นอยากติดตามอย่างแน่นอน ในเนื้อข่าวก็ดุดันไม่แพ้กัน อาตมาอ่านเองยังตกใจว่าทำไมเราถึงพูดจาดุดันขนาดนั้นเชียวหรือ?
วันถัดมามีสื่อมากมายติดต่อมาสัมภาษณ์อีกว่า พระพยอมโดนธรรมกายฟ้องแล้วนะ อาตมาก็ให้สัมภาษณ์ไปว่า อาตมายอมเป็นสัตว์เล็กที่ติดใยแมงมุมของกฎหมาย เพราะถ้าเป็นสัตว์ใหญ่คงชนตูมจนใยแมงมุมของกฎหมายขาดกระจุย สื่อก็ไปพาดหัวข่าวว่า "พระพยอมลั่นไม่กลัวถูกดำเนินคดีเพราะพูดความจริง"
ถัดมาอีกวัน มีสื่อติดต่อเข้ามาอีกมากกว่าเดิมเพื่อขอสัมภาษณ์ต่อยอดจากเรื่องวันก่อน จนอาตมาชักเริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เราพูดออกสื่อไป สื่อได้สื่อสารตรงตามที่พูดหรือมีข้อเท็จจริงอะไรคลาดเคลื่อนหรือไม่ ทำไมสื่อเริ่มเข้ามาถามคำถามที่เหมือนอาตมากำลังเลือกข้างเข้าไปเหยียบย่ำซ้ำเติมวัดธรรมกายที่กำลังถูกสังคมจับตากรณีพระธัมมชโย?



อาตมากลับมาทบทวนพิจารณาเรื่องข่าวต่างๆที่ออกไป พบว่ามีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน คือกรณีที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ที่มีการพูดจากสื่ออาวุโสชื่อดังบางท่าน หรืออดีตสว.สรรหาบางท่านที่เกาะติดเรื่องวัดธรรมกายมานาน รวมถึงข่าวที่แพร่กันในสังคมออนไลน์ที่ว่าท่านธัมมชโยได้กล่าวถึงหลวงปู่มั่นและท่านพุทธทาสฯว่าไปอยู่ในภพภูมิที่ไม่เหมาะสมหรือเข้าใจง่ายๆว่าได้ไปอยู่ในนรกภูมิ
อาตมาได้ให้ผู้ช่วยช่วยค้นหาข้อเท็จจริงว่าเคยมีเทปหรือคลิปที่ท่านธัมมชโยได้พูดในลักษณะดังกล่าวจริงหรือไม่ ก็ยังไม่สามารถหามาได้ อีกทั้งมีผู้สอบถามไปยังวัดธรรมกายถึงเรื่องการพูดดังกล่าวก็ได้รับการปฏิเสธมาว่าไม่เคยมีการกล่าวร้ายใดๆต่อหลวงปู่มั่น ไม่เคยอวดอุตริว่าไปพบเห็นท่านพุทธทาสฯในนรกภูมิอย่างที่มีการส่งข่าวแชร์ข่าวกันแต่อย่างใด และยังสำทับมาว่าถ้าเป็นเรื่องจริงป่านนี้คงมีคลิปภาพเสียงว่อนกันไปก่อนหน้านี้นานแล้ว

ในเมื่อความจริงดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัด ในฐานะอาตมาก็เป็นลูกผู้ชายชาติพระเหมือนกัน อาตมา "ขอโทษ" ต่อกรณีดังกล่าวหากอาตมาได้เข้าใจผิดไป ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาในทำนองว่าพระพยอมยุให้ทหารล้อมลุยจับอะไรนั่น อาตมาเข้าใจว่าคงลงไม่ตรงกับบรรยากาศที่สัมภาษณ์นัก เพราะข้อเท็จจริงเป็นการตอบคำถามเชิงเปรียบเทียบจากคำถามนักข่าว อาตมาจึงยกตัวอย่างจากการที่ได้รู้จากอดีตนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งที่เล่าให้ฟังว่าปกติการจับกุมเขาจะเริ่มจากเบาไปหาหนักกันอย่างไรเท่านั้น ซึ่งว่าตามจริงหากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกระทำอะไรกับพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย และเป็นที่เคารพนับถือขนาดนี้ ข่าวที่ออกมาดูจะเว่อร์เอิกเกริกเกินไปด้วยซ้ำ การเจรจาพูดคุยน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดไม่ใช่การใช้กำลังอย่างแน่นอน

แต่ในส่วนอื่นๆในการแสดงความคิดเห็นเช่นการบ้าบุญหลงบุญและชวนให้ทำบุญกันจนเพลียบุญ ถึงขนาดมีบางคนต้องหมดเนื้อหมดตัวกับการทำบุญนั้น อาตมาก็ไม่เห็นด้วย ไม่ใช่แต่วัดธรรมกายเท่านั้น แต่หมายถึงทุกวัดทุกองค์กร ถ้าทำบุญจนตนเองต้องเดือดร้อนนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่สมควร
อีกเรื่องที่อาตมาขอชี้แจงและฝากไว้ก็คือ การจะเกลียดอะไรใครก็เหลือเผื่อมีโอกาสกลับมารักกันดีกันได้อีกบ้าง เช่นเดียวกันถ้าจะรักอะไรใครก็อย่าลุ่มหลงจนหมดใจให้เผื่อใจไว้ผิดหวังกันบ้าง
เรื่องความรู้สึกเคารพนับถือและการออกมาปกป้องครูบาอาจารย์ไม่ว่าศิษย์วัดธรรมกาย ศิษย์หลวงปู่มั่น ศิษย์ท่านพุทธทาสฯ ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าก็ต้องมีความรู้สึกหากมีใครมาลบหลู่หรือให้ร้ายในทางเสียหาย แม้แต่อย่างเรื่องคุณทักษิณก็เหมือนกัน มีทั้งคนเกลียดคนรัก ดังนั้นจะเกลียดจะรักก็ต้องเผื่อไว้ในอนาคตด้วย

วันนี้ หากพระพยอมทำให้ใครเป็นทุกข์ "พระพยอมขอโทษ" แต่สำหรับจุดยืนในการปกป้องพระพุทธศาสนานั้น อาตมายังขอสงวนสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระศาสนาอย่างถึงที่สุด เจริญพร 
/พระพยอม กัลยาโณ
... 
จากคอลัมน์"สำนัก(ข่าว)พระพยอม
หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 9 มิ.ย.2559

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ https://goo.gl/Dfp37j
Copyright © 2015 @วัดเอย>>>วัดพระธรรมกาย
| Distributed By Gooyaabi Templates