วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย..ด้วยจิตที่เลื่อมใส

"สวดมนต์เห็นธรรม อานิสงส์ไม่มีประมาณ"  อานุภาพการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย


อานุภาพการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย จะช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ที่มาเกิดกับเราและมวลมนุษยชาติทั้งหลายให้มลายหายสูญไป

ในการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย เราต้องฝึกท่องบทสวดให้จำได้จนคล่องปากขึ้นใจ


ขณะสวดให้นั่งพับเพียบ พนมมือ หลับตา เอาใจจรดไปที่ศูนย์กลางกาย นึกถึงองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ โตใหญ่ขนาดไหนก็ได้ แล้วแต่ใจเราชอบ

หากยังนึกไม่เห็น ไม่เป็นไร ให้ทำความรู้สึกว่า มีองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ อยู่ในกลางท้องของเรา

แล้วทำความรู้สึกประหนึ่งว่า เรานั่งอยู่ในอายตนนิพพาน กำลังเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธองค์



เสียงที่เปล่งออกมา ไม่ใช่ดังออกมาจากปาก หรือแค่คอของเราเท่านั้น

แต่ให้เป็นเสียงแก้ว ที่กลั่นออกมา จากแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ภายในจากองค์พระใส ๆ จากดวงธรรมใส ๆ ผ่านศูนย์กลางกาย

หรือจำง่าย ๆ ว่า เสียงสวดมนต์นั้นได้เปล่งออกมาจากกลางท้อง
แล้วค่อยออกมาที่ปากของเรา



เสียงที่เปล่งออกมา ให้เป็นเสียงที่ดังพอดี ๆ

ไม่ดังในระดับเสียงตะโกน หรือไม่ค่อยเหมือนเสียงกระซิบ

แต่ให้ดังในระดับที่เราได้ยินด้วยหูของเราเอง และคนข้าง ๆ ได้ยิน 

เสียงที่สวดออกมาดี จะมีอานุภาพไปไกล ..

ที่กายละเอียดทั้งหลาย  หรือใครที่ได้ยินได้ฟัง ก็จะชุ่มชื่นจิตใจเบิกบาน สว่างไสว ..



และไม่ใช่ว่าสวดเฉพาะพวกเรา .. 

แม้กายละเอียดที่มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ก็จะร่วมสวดไปพร้อม ๆ กันด้วย. 

ทุกครั้งที่เราสวดมนต์ใจเราก็จะถูกกลั่นให้สะอาดบริสุทธิ์ บุญก็เกิดขึ้นกับตัวเรา 

ใจก็เป็นมงคล ปากเราก็เป็นมงคล หูเราก็เป็นมงคล ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นสิริมงคลทั้งหมด..



วิบากกรรมที่ติดมาข้ามภพข้ามชาติ เพราะอกุศลเข้าสิงจิตทำให้เราพลาดพลั้ง คิดผิด พูดผิด ทำผิด  ก็จะถูกกลั่นแก้ไปด้วย..

หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย จิตใจที่ขุ่นมัวก็จะใสสว่าง..


เสียงที่กระจายออกไปจากใจใส ๆ ที่เกิดจากความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้นจะเชื่อมเป็นพลังใจซึ่งกันและกัน กระจายขยายเชื่อมกับบรรยากาศรอบตัว ..



แล้วแผ่ขยายไปทุกทิศทุกทาง ไปถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์  ดวงดาว จักรวาลน้อยใหญ่ต่าง ๆ อันไม่มีประมาณ..

จะเป็นกระแสคลื่นแห่งความบริสุทธิ์ ที่ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทิน ที่อยู่ในบรรยากาศ

ทุกข์ โศก โรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ก็จะมลายหายสูญไป

ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ  ความคิดเบียดเบียนกัน ก็จะค่อย ๆ ละลายจางหายไปเรื่อย ๆ

สิ่งที่เป็นมลทินต่าง ๆ จะค่อย ๆ ถูกกลั่นแก้กันไป..



เพราะฉะนั้น ต้องหมั่นสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ด้วยจิตที่เลื่อมใสทุก ๆ วัน

และเวลาสวดให้สวดด้วยใจที่ชุ่มชื่น เบิกบาน ให้มีความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

สวดมนต์อย่างถูกหลักวิชชา อย่างนี้จึงจะเรียกว่า "สวดมนต์เห็นธรรม" ที่มีอานิสงส์ไม่มีประมาณ

๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
พระเทพญาณมหามุนี
(หลวงพ่อธมฺมชโย)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2015 @วัดเอย>>>วัดพระธรรมกาย
| Distributed By Gooyaabi Templates