Featured

วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

12 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับบทฝึกศิษย์วัดพระธรรมกาย ++

🌴12 เรื่องน่ารู้ 
เกี่ยวกับบทฝึกศิษย์วัดพระธรรมกาย 
ที่บางคนอาจไม่รู้มาก่อน!!


 🌳เป็นอันที่ยอมรับว่า ตั้งแต่สร้างวัดพระธรรมกายในปี 2513 วัดพระธรรมกายเป็นที่จับตามองจากสังคมมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานวัดหรือเรื่องที่เป็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

 เหมือนต้นไผ่ที่โดนลมโหมกระหน่ำตลอดเวลา แต่ข้อสังเกตุ คือ วัดใหญ่ขนาดนี้ ลูกศิษย์ สาธุชนเยอะขนาดนี้ ทำไมยังสามารถยืนหยัดได้มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่?????



 🌴สิ่งหนึ่งที่แน่นอนและเป็นจุดเด่นของวัดพระธรรมกาย คือ ย่อมมีบทฝึกหัดเกลาจิตใจ ให้มีความสะอาด ระเบียบเรียบร้อยแม้จะมีคนเป็นจำนวนมากก็ตาม บทฝึกที่ว่าไม่เหมือนใคร ของศิษย์วัดพระธรรมกาย มีอะไรบ้าง ล่ะ มาดูกันเลย

 🌲1. การถอดรองเท้า ที่ค่อนข้างเป็นระเบียบ แม้ไม่เจ๋งที่สุด แต่ก็พอเห็นความแตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะอะไร ก็เพราะเริ่มต้นจากท่านรองเจ้าอาวาส ท่านก้มลงไปหยิบรองเท้าญาติโยมที่ถอดไม่เรียบร้อยไปจัดเองน่ะสิ ศิษย์ทั้งหลายเห็นเลยทนไม่ได้ ต้องก้มลงไปทำเสียเอง อย่าปล่อยให้ครูบาอาจารย์ทำได้อย่างไร ทำไปทำมา นานเข้ากลายเป็นนิสัยติดตัวศิษย์วัดไปซะแล้ว    

 🌲 2. แปลกเรื่องที่ 2 ง่าย ๆ เห็นได้ชัด ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด แม้ไม่เลิศหรูอย่างบางแห่งที่ทำได้ดีมาก แต่ก็เรียบง่าย และคณะศิษย์ก็ยอมทำตาม นั่นคือการเช็ดอุปกรณ์ทุกชนิดในห้องน้ำให้แห้งหลังจากใช้เสร็จทุกครั้ง โดยทางวัดได้เตรียมผ้าแต่ละชนิดไว้ให้แล้ว เพียงแต่หยิบมาใช้เท่านั้นเอง

 แม้กระทั่งรองเท้าเปลี่ยนเข้าห้องน้ำถ้าเปียกก็มีผ้าให้เช็ด เพื่อให้คนที่ใช้ต่อไป ได้ใส่โดยไม่เปียก ทำไปทำมา นานเข้าก็กลายเป็นนิสัยอีกอย่างที่เกิดขึ้นกับศิษย์จนได้ แต่ก็ยังได้ผลไม่ 100 % เพราะศิษย์วัดก็คนธรรมดา ฝึกง่ายบ้าง ยากบ้าง 

แค่นี้ก็รู้สึกแปลกมาก ๆ แล้ว สำหรับผู้ที่ไปวัดพระธรรมกายครั้งแรก!!!

 🌲 3. แปลกเรื่องที่ 3 คือ มีถุงใส่รองเท้าให้หิ้วติดตัวไปด้วย จะได้ไม่หาย (ที่หายเพราะคนเหมือนกันที่ไปวัด แต่วัตถุประสงค์อาจไม่เหมือนกัน อย่าไปว่าเขานะก็ฝึก ๆ กันไป) แม้วัดจะเสียถุงที่ใช้ใส่รองเท้าญาติโยมเท่าไร ก็ไม่ว่า ขอให้เกิดนิสัยรับผิดชอบดี ๆ กับศิษย์และไม่เปิดโอกาสให้คนมาลักขโมยรองเท้าในวัด เท่ากับช่วยไม่ให้เขาทำบาปนั่นแหละ

 🌲4. แปลกอีกอย่างที่เห็นชัด มีเด็ก ๆ และวัยรุ่นนักเรียนนักศึกษา มายืนยิ้มสวัสดีและกล่าวต้อนรับ-ยืนส่ง ชมเชียร์ให้กำลังใจญาติโยมที่เดินทางมาวัดอีก ก็สอนให้เราเคารพในการปฏิสันถาร หรือเคารพในการต้อนรับแขกนั่นแหละ เป็น 1 ในเคารพ 7 ประการ มิใช่ของแปลกใหม่ หรือคิดเอง

 🌲5. แปลกข้อต่อมาคือ การมีน้ำถุง หลายคนโดยเฉพาะเด็ก ๆ ชอบที่จะนำน้ำที่บรรจุถุงมาดื่มเล่น เพราะไม่เคยเห็นที่ไหนมีน้ำเปล่าใส่ถุงเล็ก ๆ ดื่มได้ง่าย ๆ ไม่แตก ไม่เปียกแบบนี้มาก่อน แล้วดื่มเสร็จวัดพระธรรมกายยังสอนพับถุงให้เหลือถุงเล็ก ๆ อีก เพื่อประหยัดพื้นที่ถุงใส่เพชรพลอย (ถุงใส่ขยะ)ให้ใส่ได้มาก ๆ เช่นเดียวกับนมกล่อง ดื่มแล้วต้องพับกล่องนม เพราะจะได้ประหยัดพื้นที่เช่นกัน         



 🌲6. แปลกอีกเรื่อง วัดพระธรรมกายสอนแม้กระทั่งการกวาด การถู การเช็ด การล้างห้องน้ำการม้วนสายยาง การล้างอุปกรณ์ การซักผ้าแต่ละชนิด การตาก การพับผ้าทุกชนิดให้กับศิษย์อีก (จริง ๆ แม้ที่บ้านยังไม่ค่อยได้สอนกันเลย ได้แต่ทำตาม ๆ กันมา) สอนแม้กระทั่งการจัดเก็บไม่ถู ไม้กวาดอ่อน ไม้กวาดแข็ง วางอย่างไร ไม่ให้เสียรูปทรง ใช้ได้นาน ๆ การม้วนเสื่ออย่างไร ให้อายุเสื่อยืน ๆ สอนแล้วก็ให้ปฏิบัติกันด้วยนะ มิใช่สอนแค่ทฤษฎีเพียงอย่างเดียว

 🌲7. แปลกอีกอย่างคือ การแยกขยะที่ต่างชนิดกัน จากเดิมแยกแค่ขยะเปียก กับ ขยะแห้ง แต่ทุกวันนี้ เริ่มแยกเศษอาหาร กระดาษ(กระดาษอ่อน-แข็ง กระดาษทิชชู่) พลาสติก (พลาสติกรีไซเคิ่ล กับพลาสติกทั่วไป) ก็ยังทำได้ไม่ 100% แต่ก็ฝึกกันไป เพราะต่างประเทศเช่นญี่ปุ่น ไต้หวันเขาเนี้ยบกว่าไทยเยอะ จริงไหม ?

 🌲8. แปลกอย่างต่อมา คือ สวดมนต์เสียงดังพร้อม ๆ กัน หลายพันหลายหมื่น หลายแสนคน กระหึ่มไปทั้งสภา ส่วนใหญ่ที่เราเคยไปวัดมา เขาจะสวดเงียบ ๆ ในใจ มากกว่า

 🌲9. แปลกต่อมาคือ งานบุญแต่ละอย่าง จะมีประธานนำกล่าว ที่มาจากญาติโยมเอง ที่ตั้งใจทำบุญและเป็นผู้แทนนำกล่าว ซึ่งที่เห็นมา มักจะเป็นมัคนายก นำกล่าวเองหมดทุกบุญทุกอย่างเสียมากกว่า

 🌲 10. แปลกต่อมาคือ ในวัดไม่มีร้านขายอาหารเลย มีแต่แจกอย่างเดียวเลย (คุณยายฯเคยสอนว่า ถ้าให้วัดทำธุรกิจค้าขาย จะทำให้ยุ่งยากและตัดบุญคนอื่น เช่น เขาตั้งใจนำปัจจัยมาทำบุญ 100 แต่พอมาเห็นของขาย อยากได้ อยากกิน ก็เลยไปซื้อมา เงินที่จะทำบุญก็ลดลง ทำให้เขาได้บุญน้อยลง คนขายคือคนตัดบุญเขา จะมีวิบากกรรมเข้าตัวเอง ที่วัดเลยไม่มีใครทำธุรกิจหรือค้าขายเวลาไปในวัดพระธรรมกาย)

 🌲11. แปลกข้อเกือบสุดท้าย คือ การสอนให้อธิษฐานจิต ในเวลาทำบุญ มีคำอธิษฐานให้เป็นประเภท ๆ ของบุญ ซึ่งผู้ใหญ่มักนำเด็ก ๆ หรือคนใหม่ ๆ ให้อธิษฐานกันเป็นจริงเป็นจังมากเลย เพราะวัดพระธรรมกายบอกว่า นี่คือ อธิษฐานบารมี เป็น 1 ใน 10 ของบารมี 10ทัศน์ เลยนะ

 🌲12. แปลกข้อท้ายสุด ไม่มีใครสูบบุหรี่ในวัด ทั้งพระภิกษุสามเณรและญาติโยม

 🌴วันนี้ขอจบความแปลกของวัดพระธรรมกายไว้เท่านี้ก่อนแล้วกันนะจริง ๆ ถ้าลงรายละเอียดก็มีอีกเยอะ เพราะ เดี๋ยวจะยาวยืดเกินไป ทำให้ไม่อยากอ่าน 

🌱กระดิ่งช่อฟ้า
15 เมษายน 2560 : 18.05น.

#ธรรมกาย
#วัดพระธรรมกาย

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะแข็งแกร่ง ต้องออกกำลังกาย!!!

สรีระนี้เอาไว้สร้างบารมี...


  พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ให้รู้จักประมาณในความสบาย" ถ้ากินแล้วนอน ร่างกายจะไม่สบาย เลือดลมเดินไม่สะดวก ร่างกายจึงเปลี้ย

 หลวงพ่อก็มาดูว่า การออกกำลังกายอะไรที่ประหยัดสุด ประโยชน์สูง ทั้งพื้นที่ เวลา และอารมณ์ เพื่อให้ความสำราญแก่กล้ามเนื้อครบถ้วน

  เราเป็นเจ้าของมันตามเวลา มันจึงไม่ฟังเรา บอกจะเอาอย่างนี้มันก็จะเอาอย่างโน้น หลวงพ่ออยากให้ลูก ๆ ทุกคนแข็งแรง เพราะองค์พระของเราจะต้องแข็งแรง เพื่อช่วยกันทำหน้าที่

  สรีระนี้เอาไว้สร้างบารมี หลวงพ่อวัดปากน้ำกล่าวไว้ว่า "สุก..มึงเอาใจเขาบ้างนะ เดี๋ยวเขาก็ไม่เล่นกับมึง"

 กายมนุษย์เป็นกายสำคัญ ไม่ว่าพระพุทธเจ้าหรือพระอริยบุคคล โดยเฉพาะเราจะฝึกวิชชาธรรมกาย แพ้ชนะอยู่ที่กายนี้ 

เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลตัวเองให้ดี ใครไม่ได้ดูแล เท่ากับไม่ได้ดูแลสมบัติพระศาสนา

 หลวงพ่อมีความรู้สึกว่า สมัครใจที่จะมีร่างกายแข็งแรงเอาไว้สู้ เพื่อก้าวไปรับภารกิจใหญ่ การนั่งสมาธิไม่เหมือนการแบกหามที่ต้องใช้แรง แต่ร่างกายก็ต้องแข็งแรง

 เพราะฉะนั้นหลวงพ่อจะฟิตร่างกายให้สบาย ๆ เพื่อภารกิจการหลับตา การทำวิชชา แต่จะให้หลวงพ่อแข็งแรงคนเดียวนั้นหาควรไม่ แม่ทัพแข็งแรง แต่ลูกทัพคลานถือปืน (ส่ายหน้า)

 เราต้องไปคู่กันเหมือนนกที่บินไปในอากาศมีปีกซ้ายและปีกขวา ปีกขวาอุบาสก ปีกซ้ายอุบาสิกา

 สองปีกจะต้องช่วยกันพยุง ถ้าปีกข้างหนึ่งแข็งแรง อีกข้างหนึ่งเปลี้ย ก็นึกถึงนกดู เราจะต้องแข็งแรงด้วยกันจะได้ไปสู่จุดหมาย

  การทำให้สรีรยนต์แข็งแรง ถือเป็นภารกิจอย่างหนึ่งของลูก ๆ ในองค์กร การปล่อยปละ ละเลยถือว่าไม่ดูแลสมบัติพระศาสนา และการละเว้นกิจสำคัญขององค์กร ถือเป็นการหลีกเลี่ยงภารกิจอันยิ่งใหญ่ 

เพราะร่างกายเป็นที่รองรับของทุกสิ่ง คือ มรรคผลนิพพาน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง เห็นศูนย์กลางกายก็จะเข้าไปอ่อน ๆ เหมือนสายธนูที่อ่อนจนยิงไม่ไหว

 ถ้าร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นเราต้องออกกำลังกายเดี๋ยวนี้ อันเป็นนิมิตหมายที่ดี

โอวาทหลวงพ่อ

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สวดมนต์เห็นธรรม อานิสงส์ไม่มีประมาณ++

อานุภาพการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ที่อาจจะช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ
ที่มาเกิดกับเราและมวลมนุษยชาติทั้งหลายให้มลายหายสูญไป!!



ในการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย
เราต้องฝึกท่องบทสวดให้จำได้จนคล่องปากขึ้นใจ
ขณะสวดให้นั่งพับเพียบ พนมมือ หลับตา
เอาใจจรดไปที่ศูนย์กลางกาย 
นึกถึงองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ
โตใหญ่ขนาดไหนก็ได้ แล้วแต่ใจเราชอบ

หากยังนึกไม่เห็น ไม่เป็นไร ให้ทำความรู้สึกว่า
มีองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ อยู่ในกลางท้องของเรา
แล้วทำความรู้สึกประหนึ่งว่า เรานั่งอยู่ในอายตนนิพพาน
กำลังเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธองค์

เสียงที่เปล่งออกมา 
ไม่ใช่ดังออกมาจากปาก หรือแค่คอของเราเท่านั้น
แต่ให้เป็นเสียงแก้ว

ที่กลั่นออกมาจากแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ภายใน
จากองค์พระใส ๆ จากดวงธรรมใส ๆ ผ่านศูนย์กลางกาย
หรือจำง่าย ๆ ว่า 


เสียงสวดมนต์นั้นได้เปล่งออกมาจากกลางท้อง
แล้วค่อยออกมาที่ปากของเรา
เสียงที่เปล่งออกมา ให้เป็นเสียงที่ดังพอดี ๆ
ไม่ดังในระดับเสียงตะโกน หรือไม่ค่อยเหมือนเสียงกระซิบ
แต่ให้ดังในระดับที่เราได้ยินด้วยหูของเราเอง
และคนข้าง ๆ ได้ยิน 

เสียงที่สวดออกมาดีจะมีอานุภาพไปไกล
ที่กายละเอียดทั้งหลาย  หรือใครที่ได้ยินได้ฟัง
ก็จะชุ่มชื่นจิตใจเบิกบาน สว่างไสว
และไม่ใช่ว่าสวดเฉพาะพวกเรา  

แม้กายละเอียดที่มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
ก็จะร่วมสวดไปพร้อม ๆ กันด้วย 
ทุกครั้งที่เราสวดมนต์
ใจเราก็จะถูกกลั่นให้สะอาดบริสุทธิ์
บุญก็เกิดขึ้นกับตัวเรา

ใจก็เป็นมงคล ปากเราก็เป็นมงคล หูเราก็เป็นมงคล
ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นสิริมงคลทั้งหมด
วิบากกรรมที่ติดมาข้ามภพข้ามชาติ
เพราะอกุศลเข้าสิงจิตทำให้เราพลาดพลั้ง

คิดผิด พูดผิด ทำผิด  ก็จะถูกกลั่นแก้ไปด้วย
หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย จิตใจที่ขุ่นมัวก็จะใสสว่าง

เสียงที่กระจายออกไปจากใจใส ๆ 
ที่เกิดจากความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้น
จะเชื่อมเป็นพลังใจซึ่งกันและกัน
กระจายขยายเชื่อมกับบรรยากาศรอบตัว 

แล้วแผ่ขยายไปทุกทิศทุกทาง
ไปถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์  ดวงดาว
จักรวาลน้อยใหญ่ต่าง ๆ อันไม่มีประมาณ

จะเป็นกระแสคลื่นแห่งความบริสุทธิ์
ที่ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทินที่อยู่ในบรรยากาศ
ทุกข์ โศก โรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ก็จะมลายหายสูญไป

ที่ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทินที่อยู่ในบรรยากาศ
ทุกข์ โศก โรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ก็จะมลายหายสูญไป
ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ  ความคิดเบียดเบียนกัน
ก็จะค่อย ๆ ละลายจางหายไปเรื่อย ๆ
สิ่งที่เป็นมลทินต่าง ๆ จะค่อย ๆ ถูกกลั่นแก้กันไป

เพราะฉะนั้น ต้องหมั่นสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย
ด้วยจิตที่เลื่อมใสทุก ๆ วัน

และเวลาสวดให้สวดด้วยใจที่ชุ่มชื่น เบิกบาน
ให้มีความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
สวดมนต์อย่างถูกหลักวิชชา อย่างนี้จึงจะเรียกว่า
สวดมนต์เห็นธรรม

https://youtu.be/-14zoVIZt_w

Cr.พระสุพจน์

วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อย่าหลงเหยื่อ เราควรทำชีวิตเราให้มีประโยชน์

 พิจารณาให้เห็นว่า อย่างไรเราก็ต้องตาย
แต่ก่อนตาย เราควรทำชีวิตเราให้มีประโยชน์
ให้ละคลายความยึดมั่นถือมั่นในโลกามิส



 โลกามิส คือ เหยื่อล่อให้ติดอยู่ในโลกนี้
เหยื่อล่อได้แก่รูป  เสียง  กลิ่น   รส  สัมผัส 
ธรรมารมณ์ต่างๆ

 เหยื่อล่อนี้จะทำให้ใจหลุดออกจาก
เส้นทางสายกลางของพระพุทธเจ้า   เป็น
เหตุให้ใจห่างจากกระแสของพระนิพพาน
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของความสุข ความบริสุทธิ์

 เมื่อห่างมากๆ เข้า เราก็จะไปจมจ่อม
อยู่ในโลกามิส คือเหยื่อล่อนี้ ชีวิตจึงเต็ม
ไปด้วยความระทมทุกข์

 มนุษย์เดี๋ยวนี้ ปล่อยปละละเลยใน
กระแสของพระนิพพาน และหมกมุ่นยินดี
อยู่กับวิทยาการใหม่ๆ ติดกับโลก ติดกับ
วัตถุ จึงเหมือนเดินอยู่ในที่มืด

 อย่าไปหลงคิดว่ามันเป็นจริงเป็นจัง
และไปยึดมั่น  ถือมั่น จนกระทั่งคลายไม่
ออก หน้ามืดตาลาย ไม่เห็นว่าเป้าหมาย
 ชีวิตนั้นคืออะไร ท่านจึงให้ปลดปล่อยวาง
ในโลกามิสเหล่านี้ แล้วให้ใจยินดีในพระนิพพาน
คุณครูไม่ใหญ่

 ชีวิตในโลกหล้า  ลวงตา
เห็นทุกข์เป็นสุขพา โศกสิ้น
ดั่งเหยื่อที่ล่อปลา ติดเบ็ด
แสบเผ็ดเดือดร้อนดิ้น  กว่าได้เห็นธรรม

คุณครูไม่ใหญ่

วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

๔๗ วัดพระธรรมกาย สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา


วัดพระธรรมกายในวันนี้

 ๔๗ ปีผ่านไป สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป 

แต่มโนปณิธานของหมู่คณะวัดพระธรรมกายก็ยังไม่แปรเปลี่ยน ยังคงยึดมั่นที่จะสืบทอดมโนปณิธานของพระมงคลเทพมุนี และคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ที่ปรารถนาจะนำพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย แผ่ขยายออกไปทั่วโลก 
  
เพื่อให้ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นในใจของมวลมนุษยชาติ 
  
ซึ่งจะเป็นทางมาแห่งสันติภาพโลกที่แท้จริง และเพื่อให้ชาวโลกตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต รู้เป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ 

และรู้จักสั่งสมบุญเพื่อเป็นเสบียงสำหรับเดินทางในวัฏสงสารจนกว่าจะเข้าสู่นิพพาน ดังถ้อยคำที่ว่า “เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี”

สาระน่ารู้ก่อนไปวัด

 คนเราไปวัดก็เพื่อจะสร้างบุญสร้างกุศล ไม่ว่าจะด้วยการทำทานรักษาศีล หรือเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา ดังนั้นเพื่อให้ได้บุญกุศลอย่างเต็มที่ จึงควรมีการเตรียมตัวเตรียมใจ ดังนี้

๑. การเตรียมใจ
  

เตรียมใจก่อนมาร่วมงานที่วัดด้วยการทำใจหยุดนิ่งที่ศุนย์กลางกาย
  จัดภารกิจที่จำเป็นให้เสร็จเรียบร้อย หรือมอบหมายให้ผู้ที่ไว้วางใจทำแทน ขณะไปทำบุญจะได้ไม่กังวล
 
สำรวมใจน้อมระลึกถึงบุญกุศลที่เคยทำมาแล้วตลอดชีวิต เพื่อให้เกิดความปีติเบิกบาน แช่มชื่น ผ่องใส จะได้มีกำลังใจที่จะทำความดีเพิ่มขึ้น

ก่อนเข้านอน กราบบูชาพระรัตนตรัย สวดมนต์ทำวัตรเย็นเป็นการเตรียมใจให้สะอาด เหมาะจะเป็นภาชนะรองรับบุญกุศลในวันรุ่งขึ้นได้เต็มที่

ในขณะเดินทางไปวัด ไม่ควรสนทนากันในเรื่องที่จะทำให้ใจขุ่นมัว แต่ควรระลึกถึงเรื่องบุญกุศล และตั้งใจให้แน่วแน่ว่าไปวัดวันนี้จะเก็บเกี่ยวบุญกุศลให้เต็มที่

๒. การแต่งกาย
  
สวมชุดขาวขาวเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
 

ควรสวมเสื้อผ้าสีขาวทั้งชุด หรืออย่างน้อยก็เสื้อสีขาวการแต่งกายชุดขาวมีข้อดีหลายประการ คือ ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เกิดบรรยากาศแห่งการปฏิบัติธรรม ทำให้เกิดความเสมอภาคแก่ชนทุกชั้น ทำให้เกิดสติมีความสำรวมระวังเพิ่มขึ้น ทำให้ใจผ่องแผ้วพร้อมที่จะเข้าถึงธรรม

ไม่ควรสวมเสื้อผ้าโปร่งบาง หรือหรูหราราคาแพงเกินไป

ไม่ควรสวมเสื้อผ้ารัดรูป เพื่อสะดวกในการกราบไหว้พระและนั่งสมาธิ ผู้หญิงไม่ควรนุ่งกระโปรงสั้น หรือผ่าหน้าผ่าหลัง ควรนำผ้าคลุมเข่าไปด้วย เพื่อใช้คลุมเข่าขณะนั่งพับเพียบหรือนั่งสมาธิ

ผู้ชายควรตัดผมให้สั้น ถ้าไว้ผมยาวก็หวีให้เรียบร้อย ส่วนผู้หญิงอย่าแต่งผมประณีตเกินไป ผู้พบเห็นจะได้ไม่เกิดความคิดฟุ้งซ่าน

ควรเว้นการประพรมน้ำหอม

ไม่ควรแต่งหน้า เขียนคิ้ว ทาปาก ทาเล็บ ฯลฯ จนเกินงาม

ไม่ควรสวมเครื่องประดับราคาแพง เช่น แหวนเพชร นาฬิกาเรือนทอง หรือสร้อยทองคำเส้นโต ๆ ฯลฯ

๓. การนำเด็กไปวัด


 การนำเด็กไปวัดเป็นสิ่งที่ดี เป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีแก่เด็ก ทำให้เด็กได้ใกล้ชิดพระศาสนาตั้งแต่ยังเยาว์ 

แต่มีข้อควรระวัง คือ อย่านำเด็กอ่อนไปวัดโดยไม่จำเป็น เพราะอาจก่อความรำคาญให้แก่ผู้อื่นได้ ถ้านำเด็กไปด้วย ควรดูแลอย่างใกล้ชิด หรือนำไปฝากเลี้ยงที่ศูนย์ลูกแก้ว ชั้น ๑ สภาธรรมกายสากล ด้านทิศตะวันตก

ขณะอยู่ในวัด
  
  วัด เป็นที่รวมของคนหลายประเภท ซึ่งมีความแตกต่างกันมากทั้งในด้านอายุ ฐานะ ความเป็นอยู่ การศึกษา อาชีพ ตลอดจนอุปนิสัยใจคอโอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย 

จึงจำเป็นต้องระมัดระวังตน เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวบุญได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อเดินทางไปถึงวัดแล้วพึงปฏิบัติดังนี้

ปฏิบัติตนอยู่ภายในกรอบประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามสำรวมกาย วาจา ใจ ให้สงบเรียบร้อย งดอาการคะนองทั้งปวง ทั้งนี้เพื่อ รักษากาย วาจา ใจของเราให้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญ ดังนี้


1.ก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติธรรม ควรถอดรองเท้าวาง อย่างเป็นระเบียบ แล้วเข้าไปนั่งในบริเวณที่จัดไว้

2.ในการประกอบศาสนพิธี เช่น สวดมนต์ สมาทานศีล ถวายสังฆทาน ฯลฯ ควรเปล่งเสียงอย่างชัดเจน โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อก่อให้เกิดปีติ และเป็นการแสดงความเคารพ พระรัตนตรัยด้วยวาจา

3.ไม่พูดคุยกันในขณะปฏิบัติธรรม และไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ จะได้ไม่รบกวนการทำสมาธิภาวนา

4.พยายามอดทน ต่อสิ่งที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจ เช่น อากาศร้อนความหิวกระหาย กิริยาอาการที่ไม่เหมาะสม ของคนบางคน และการไม่ได้รับความสะดวก ในเรื่องต่าง ๆ ควรแผ่เมตตาให้ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน และควรควบคุมโทสะอย่าให้เกิดขึ้น จะได้เก็บเกี่ยวบุญไปได้อย่างเต็มที่

5.เวลาพระภิกษุสามเณรเดินผ่านมา ให้ประนมมือไหว้ด้วยความเคารพ เวลาพูดกับพระภิกษุสามเณร ควรนั่งลงและประนมมือไหว้

6.เข้าแถวรับอาหารอย่างมีระเบียบ เมื่อรับประทานเสร็จแล้ว นำภาชนะไปทิ้ง ในถุงเก็บเพชรพลอย (ถุงขยะ)

กฎระเบียบของวัดพระธรรมกาย

 เนื่องจากวัดพระธรรมกาย เป็นบุญสถาน ที่มีสาธุชนมาบำเพ็ญบุญร่วมกันเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีกฎระเบียบ 

เพื่อให้เกิดความสงบ เรียบร้อย และสามารถดำรงไว้ ซึ่งความเป็นบุญสถาน อันศักดิ์สิทธิ์ดังนี้

 เรียนเชิญมานั่งสมาธิ ปฏิบัติรวมกัน ณ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย

1.ห้ามสูบบุหรี่ ตลอดจนไม่นำสิ่งเสพติดให้โทษเข้ามา

2.ห้ามอ่านหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งตีพิมพ์ที่นำมาซึ่งความร้อนใจ

3.ห้ามนำสินค้าหรือสิ่งของใด ๆ เข้ามาจำหน่าย

4.ห้ามเปิดวิทยุ เครื่องกระจายเสียง และเทปบันทึกเสียงเพลง

5.ห้ามปล่อยสัตว์ในบริเวณวัด

6.ห้ามโฆษณาชวนเชื่อหาเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น

7.ห้ามร้องรำทำเพลง หรือแสดงการละเล่นทุกชนิด

8.ห้ามทำนายทายทักโชคชะตา และคุยกันด้วยเรื่องการเมืองที่ทำให้ร้อนใจ

9.ห้ามเรี่ยไร และแจกใบฎีกาทุกชนิด

10.โปรดแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย

แผนที่มาวัดพระธรรมกาย
  

  
 อุโบสถวัดพระธรรมกายเริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2520 เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 สถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยประยุกต์ โดยมีวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารเป็นต้นแบบ

วัดพระธรรมกายได้สร้างวัดไปพร้อมๆ กับการสร้างคน คือ สร้างพระภิกษุให้เป็นพระแท้ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมทั้งปลูกฝังศีลธรรม ลงในใจของผู้คนทุกเพศทุกวัย ด้วยการจัดโครงการ อบรมศีลธรรมขึ้น ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวความคิดเมื่อแรกเริ่มสร้างวัด คือ จะสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ และสร้างคนให้เป็นคนดี

https://www.dmc.tv/

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แชร์ให้โลกรู้ กับพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต!!

ความกังวลของญาติโยมเป็นเหตุให้สาธุชนมีมติกันเองว่า ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น 


ประเด็นที่หลวงพ่อทัตตชีโว อธิบายให้ เจ้าคณะจังหวัด และรองสุริยา ถึงความกังวลของญาติโยม จนเป็นเหตุให้สาธุชนมีมติกันเองว่า ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เนื่องจากไม่ไว้วางใจจากสาเหตุดังต่อไปนี้  

๑. ประเด็น รูปเหมือนทองคำ หลวงปู่วัดปากน้ำ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงเสด็จมาเป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือนเอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ แต่ถูกสงสัยว่าเป็นทองคำเก๊

๒. ประเด็นการวางศิลาฤกษ์อุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนฯ และสมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ เสด็จแทนพระองค์ มาในพิธี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต

๓. คดีเกิดขึ้น ๓๐๐ กว่าคดี ภายใน ๒ สัปดาห์ ซึ่งถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน และพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะมีคดีเพิ่มตามมาอีก

๔. วัดพระธรรมกาย สร้างโดยความร่วมแรงร่วมใจและปัจจัยจากญาติโยม ที่เก็บเล็กผสมน้อยบริจาคกันมา ญาติโยมนับล้านคน จึงเป็นเจ้าของวัดตัวจริง  แต่ทางการมาออกประกาศให้ญาติโยมออกจากวัด หากจะอยู่ภายในวัด ก็จะถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดเสบียง และอาจจะถูกดำเนินคดีต่อไป นั่นคือ ไล่เจ้าของวัดออกจากวัดที่ตนเองสร้าง ทั้งๆที่ ญาติโยมเองไม่ได้อยู่ขวางถนนแต่อย่างใด 

๕. การบวชพระ สร้างศาสนทายาทแต่ละรูปนั้นไม่ง่าย กว่าจะได้ถึง ๒,๐๐๐ รูป ในปัจจุบัน ต้องใช้เวลานาน แต่กำลังจะถูกยัดข้อหาว่า เป็นพระปลอมและจะถูกจับสึก ญาติโยมก็ยิ่งยอมรับไม่ได้

๖. กรณี ใช้ ม.๔๔ เข้าตรวจค้น ตั้งแต่วันที่ ๑๖-๑๗-๑๘ ก.พ. รวม ๓ วัน ค้นทุกพื้นที่ ทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ยึด ๖ ประตู , ซีลอายัด ๑๕ อาคาร บางอาคารตรวจซ้ำถึง ๓ ครั้ง และเจ้าหน้าที่สรุปภารกิจเป็นหนังสือระบุว่า ไม่พบเป้าหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และไม่พบการกระทำผิด ถือว่า ภารกิจจบแล้ว แต่ก็ยังมาขอค้นอีก โดยให้เหตุผลว่า ยังค้นไม่ครบทุกอาคาร 

ด้วยพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวแล้วนี้ ทำให้ญาติโยมไม่พอใจ และไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อีกต่อไป 

ทั้งหมดข้างต้นนี้ หลวงพ่อทัตตชีโว ได้อธิบายเหตุผลที่ญาติโยมไม่สบายใจและไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ให้กับ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและรองสุริยา ทราบ ดังนั้นการกล่าวหาว่าหลวงพ่อทัตตชีโว ไม่ให้ความร่วมมือนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว เป็นเหตุผลและมติของญาติโยมกันเองทั้งสิ้น 

ความจริงคือ ดีเอสไอใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะการเจรจาแจ้งว่าค้นเพื่อหาหลวงพ่อธัมมชโย แต่กลับบอกว่าต้องให้พระ และญาติโยมออกจากวัด 

ถึงแม้จะอ้างว่าพระที่มีใบสุทธิสงฆ์ว่าเป็นพระวัดพระธรรมกาย และลูกศิษย์อยู่ได้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะต้องการที่จะยึดวัด ไม่ใช่มาจับหลวงพ่อธัมมชโย 

ดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าหลวงพ่อธัมมชโยไม่อยู่ ดังนั้นที่บอกว่าให้หลวงพ่อมอบตัวเรื่องก็จบ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะดีเอสไอรู้อยู่แล้วว่าท่านไม่อยู่ จึงเอาเป็นข้ออ้างที่จะบุกยึดวัด และสึกพระ เพื่อทำตามคำสั่งของใครบางคน?  

ที่อ้างว่าต้องให้คนไทยทั้งประเทศรู้ และขอถามว่าให้รู้เรื่องอะไร เพราะดีเอสไอเข้ามาค้นทุกอาคารแล้วไม่พบหลวงพ่อธัมมชโย พบแต่อาคารว่างเปล่า ไม่มีของล้ำค่าใดๆ อย่างที่ตั้งใจ เพราะวัดพระธรรมกายไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไร พระสงฆ์สามเณรเราอยู่อย่างสมถะ ข้าวของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยไม่มี จึงไม่สมปรารถนา 

แต่ยังเชื่อว่าวัดมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ จึงต้องการค้นเพื่อให้พบขุมทรัพย์โคมลอยทั้งที่ไม่มี แต่เมื่อทางวัดบอกว่าไม่มี ก็ไม่เชื่อ แถมยังกล่าวหาพระ กล่าวหาคนที่มาปฏิบัติธรรมว่าไม่ถูกต้อง จนทำให้ญาติโยมไม่ยอมรับพฤติการณ์เจ้าหน้าที่อีกต่อไป

คณะศิษย์วัดพระธรรมกาย 
๒๒ ก.พ. ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๒๐ น.

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560

พระสูตรนี้กว่าจะได้มา ...ยาวนานถึง 20 อสงไขยแสนมหากัป !!!


เรามาเกิดก็เพื่อมาสร้างบารมี ซึ่งที่เจดีย์ตรงนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้สวดธรรมจักฯจะมีสายบุญเชื่อมกับพระพุทธเจ้าทั้งล้านพระองค์เลย และยิ่งชักชวนมาสวดกันเยอะๆ บุญก็เกิดกับคนที่ไปชักชวนด้วย แต่ต้องให้อยู่บริเวณเจดีย์ ตรงวิหารคด และถ้าเห็นเจดีย์ได้จะยิ่งดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ตรงไหนของเจดีย์ก็ได้



ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระสูตรนี้กว่าจะได้มา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องสร้างบารมียาวนานถึง 20 อสงไขยแสนมหากัป สละทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พอสละชีวิตเพื่อความดีครั้งหนึ่ง จิตจะถูกยกระดับ สละชีวิตเพื่อจิตที่บริสุทธิ์ จิตจึงถูกยกระดับให้สูงขึ้น 

เหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมารของเรา สละชีวิตเพื่อความดี ปักใจมั่นในการปฏิบัติธรรม...ถ้าไม่ได้ตายเถอะ เพื่อที่จะบรรลุธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้บรรลุ จิตก็ถูกยกระดับให้สูงขึ้น ให้บริสุทธิ์ขึ้น พอจิตตกศูนย์ก็เห็นดวงธรรมภายใน

พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ สำคัญมาก ไปบูชาที่ตรงนั้น จิตจะถูกยกระดับ เหมือนเราไปเชื่อมสายบุญกับพระพุทธเจ้าล้านพระองค์ ที่เจดีย์เป็นจุดที่สว่างที่สุด เพราะฉะนั้น จึงใช้คำว่า “สำคัญมาก”

โอวาท คุณ​ครูไม่ใหญ่

Cr.Phra Jakkrit 
Copyright © 2015 @วัดเอย>>>วัดพระธรรมกาย
| Distributed By Gooyaabi Templates