Featured

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะแข็งแกร่ง ต้องออกกำลังกาย!!!

สรีระนี้เอาไว้สร้างบารมี...


  พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ให้รู้จักประมาณในความสบาย" ถ้ากินแล้วนอน ร่างกายจะไม่สบาย เลือดลมเดินไม่สะดวก ร่างกายจึงเปลี้ย

 หลวงพ่อก็มาดูว่า การออกกำลังกายอะไรที่ประหยัดสุด ประโยชน์สูง ทั้งพื้นที่ เวลา และอารมณ์ เพื่อให้ความสำราญแก่กล้ามเนื้อครบถ้วน

  เราเป็นเจ้าของมันตามเวลา มันจึงไม่ฟังเรา บอกจะเอาอย่างนี้มันก็จะเอาอย่างโน้น หลวงพ่ออยากให้ลูก ๆ ทุกคนแข็งแรง เพราะองค์พระของเราจะต้องแข็งแรง เพื่อช่วยกันทำหน้าที่

  สรีระนี้เอาไว้สร้างบารมี หลวงพ่อวัดปากน้ำกล่าวไว้ว่า "สุก..มึงเอาใจเขาบ้างนะ เดี๋ยวเขาก็ไม่เล่นกับมึง"

 กายมนุษย์เป็นกายสำคัญ ไม่ว่าพระพุทธเจ้าหรือพระอริยบุคคล โดยเฉพาะเราจะฝึกวิชชาธรรมกาย แพ้ชนะอยู่ที่กายนี้ 

เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลตัวเองให้ดี ใครไม่ได้ดูแล เท่ากับไม่ได้ดูแลสมบัติพระศาสนา

 หลวงพ่อมีความรู้สึกว่า สมัครใจที่จะมีร่างกายแข็งแรงเอาไว้สู้ เพื่อก้าวไปรับภารกิจใหญ่ การนั่งสมาธิไม่เหมือนการแบกหามที่ต้องใช้แรง แต่ร่างกายก็ต้องแข็งแรง

 เพราะฉะนั้นหลวงพ่อจะฟิตร่างกายให้สบาย ๆ เพื่อภารกิจการหลับตา การทำวิชชา แต่จะให้หลวงพ่อแข็งแรงคนเดียวนั้นหาควรไม่ แม่ทัพแข็งแรง แต่ลูกทัพคลานถือปืน (ส่ายหน้า)

 เราต้องไปคู่กันเหมือนนกที่บินไปในอากาศมีปีกซ้ายและปีกขวา ปีกขวาอุบาสก ปีกซ้ายอุบาสิกา

 สองปีกจะต้องช่วยกันพยุง ถ้าปีกข้างหนึ่งแข็งแรง อีกข้างหนึ่งเปลี้ย ก็นึกถึงนกดู เราจะต้องแข็งแรงด้วยกันจะได้ไปสู่จุดหมาย

  การทำให้สรีรยนต์แข็งแรง ถือเป็นภารกิจอย่างหนึ่งของลูก ๆ ในองค์กร การปล่อยปละ ละเลยถือว่าไม่ดูแลสมบัติพระศาสนา และการละเว้นกิจสำคัญขององค์กร ถือเป็นการหลีกเลี่ยงภารกิจอันยิ่งใหญ่ 

เพราะร่างกายเป็นที่รองรับของทุกสิ่ง คือ มรรคผลนิพพาน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง เห็นศูนย์กลางกายก็จะเข้าไปอ่อน ๆ เหมือนสายธนูที่อ่อนจนยิงไม่ไหว

 ถ้าร่างกายแข็งแรงจิตใจก็จะแข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นเราต้องออกกำลังกายเดี๋ยวนี้ อันเป็นนิมิตหมายที่ดี

โอวาทหลวงพ่อ

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สวดมนต์เห็นธรรม อานิสงส์ไม่มีประมาณ++

อานุภาพการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ที่อาจจะช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ
ที่มาเกิดกับเราและมวลมนุษยชาติทั้งหลายให้มลายหายสูญไป!!



ในการสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย
เราต้องฝึกท่องบทสวดให้จำได้จนคล่องปากขึ้นใจ
ขณะสวดให้นั่งพับเพียบ พนมมือ หลับตา
เอาใจจรดไปที่ศูนย์กลางกาย 
นึกถึงองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ
โตใหญ่ขนาดไหนก็ได้ แล้วแต่ใจเราชอบ

หากยังนึกไม่เห็น ไม่เป็นไร ให้ทำความรู้สึกว่า
มีองค์พระหรือดวงธรรมใส ๆ อยู่ในกลางท้องของเรา
แล้วทำความรู้สึกประหนึ่งว่า เรานั่งอยู่ในอายตนนิพพาน
กำลังเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธองค์

เสียงที่เปล่งออกมา 
ไม่ใช่ดังออกมาจากปาก หรือแค่คอของเราเท่านั้น
แต่ให้เป็นเสียงแก้ว

ที่กลั่นออกมาจากแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ภายใน
จากองค์พระใส ๆ จากดวงธรรมใส ๆ ผ่านศูนย์กลางกาย
หรือจำง่าย ๆ ว่า 


เสียงสวดมนต์นั้นได้เปล่งออกมาจากกลางท้อง
แล้วค่อยออกมาที่ปากของเรา
เสียงที่เปล่งออกมา ให้เป็นเสียงที่ดังพอดี ๆ
ไม่ดังในระดับเสียงตะโกน หรือไม่ค่อยเหมือนเสียงกระซิบ
แต่ให้ดังในระดับที่เราได้ยินด้วยหูของเราเอง
และคนข้าง ๆ ได้ยิน 

เสียงที่สวดออกมาดีจะมีอานุภาพไปไกล
ที่กายละเอียดทั้งหลาย  หรือใครที่ได้ยินได้ฟัง
ก็จะชุ่มชื่นจิตใจเบิกบาน สว่างไสว
และไม่ใช่ว่าสวดเฉพาะพวกเรา  

แม้กายละเอียดที่มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
ก็จะร่วมสวดไปพร้อม ๆ กันด้วย 
ทุกครั้งที่เราสวดมนต์
ใจเราก็จะถูกกลั่นให้สะอาดบริสุทธิ์
บุญก็เกิดขึ้นกับตัวเรา

ใจก็เป็นมงคล ปากเราก็เป็นมงคล หูเราก็เป็นมงคล
ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นสิริมงคลทั้งหมด
วิบากกรรมที่ติดมาข้ามภพข้ามชาติ
เพราะอกุศลเข้าสิงจิตทำให้เราพลาดพลั้ง

คิดผิด พูดผิด ทำผิด  ก็จะถูกกลั่นแก้ไปด้วย
หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย จิตใจที่ขุ่นมัวก็จะใสสว่าง

เสียงที่กระจายออกไปจากใจใส ๆ 
ที่เกิดจากความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยนั้น
จะเชื่อมเป็นพลังใจซึ่งกันและกัน
กระจายขยายเชื่อมกับบรรยากาศรอบตัว 

แล้วแผ่ขยายไปทุกทิศทุกทาง
ไปถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์  ดวงดาว
จักรวาลน้อยใหญ่ต่าง ๆ อันไม่มีประมาณ

จะเป็นกระแสคลื่นแห่งความบริสุทธิ์
ที่ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทินที่อยู่ในบรรยากาศ
ทุกข์ โศก โรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ก็จะมลายหายสูญไป

ที่ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่จะช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทินที่อยู่ในบรรยากาศ
ทุกข์ โศก โรคภัย สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ก็จะมลายหายสูญไป
ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ  ความคิดเบียดเบียนกัน
ก็จะค่อย ๆ ละลายจางหายไปเรื่อย ๆ
สิ่งที่เป็นมลทินต่าง ๆ จะค่อย ๆ ถูกกลั่นแก้กันไป

เพราะฉะนั้น ต้องหมั่นสวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย
ด้วยจิตที่เลื่อมใสทุก ๆ วัน

และเวลาสวดให้สวดด้วยใจที่ชุ่มชื่น เบิกบาน
ให้มีความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
สวดมนต์อย่างถูกหลักวิชชา อย่างนี้จึงจะเรียกว่า
สวดมนต์เห็นธรรม

https://youtu.be/-14zoVIZt_w

Cr.พระสุพจน์

วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อย่าหลงเหยื่อ เราควรทำชีวิตเราให้มีประโยชน์

 พิจารณาให้เห็นว่า อย่างไรเราก็ต้องตาย
แต่ก่อนตาย เราควรทำชีวิตเราให้มีประโยชน์
ให้ละคลายความยึดมั่นถือมั่นในโลกามิส



 โลกามิส คือ เหยื่อล่อให้ติดอยู่ในโลกนี้
เหยื่อล่อได้แก่รูป  เสียง  กลิ่น   รส  สัมผัส 
ธรรมารมณ์ต่างๆ

 เหยื่อล่อนี้จะทำให้ใจหลุดออกจาก
เส้นทางสายกลางของพระพุทธเจ้า   เป็น
เหตุให้ใจห่างจากกระแสของพระนิพพาน
ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของความสุข ความบริสุทธิ์

 เมื่อห่างมากๆ เข้า เราก็จะไปจมจ่อม
อยู่ในโลกามิส คือเหยื่อล่อนี้ ชีวิตจึงเต็ม
ไปด้วยความระทมทุกข์

 มนุษย์เดี๋ยวนี้ ปล่อยปละละเลยใน
กระแสของพระนิพพาน และหมกมุ่นยินดี
อยู่กับวิทยาการใหม่ๆ ติดกับโลก ติดกับ
วัตถุ จึงเหมือนเดินอยู่ในที่มืด

 อย่าไปหลงคิดว่ามันเป็นจริงเป็นจัง
และไปยึดมั่น  ถือมั่น จนกระทั่งคลายไม่
ออก หน้ามืดตาลาย ไม่เห็นว่าเป้าหมาย
 ชีวิตนั้นคืออะไร ท่านจึงให้ปลดปล่อยวาง
ในโลกามิสเหล่านี้ แล้วให้ใจยินดีในพระนิพพาน
คุณครูไม่ใหญ่

 ชีวิตในโลกหล้า  ลวงตา
เห็นทุกข์เป็นสุขพา โศกสิ้น
ดั่งเหยื่อที่ล่อปลา ติดเบ็ด
แสบเผ็ดเดือดร้อนดิ้น  กว่าได้เห็นธรรม

คุณครูไม่ใหญ่
Copyright © 2015 @วัดเอย>>>วัดพระธรรมกาย
| Distributed By Gooyaabi Templates